Search this site

Sunday 5 June 2022

มีอะไรใหม่! Surface laptop GO 2 vs Surface laptop Go


เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2022 ทึ่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Surface Laptop Go 2 ใหม่ ภายใต้ catch phrase ที่ว่า 

Sleek and Portable

ซึ่งออกมาทดแทน Surface Laptop Go ที่ออกมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2020 ซึ่งเมื่อนับเวลาแล้ว เป็นเวลากว่า 20 เดือน ซึ่งในวงรอบการอัพเกรด laptop ก็นับว่า "นานกว่าปกติ" กันแล้ว ซึ่งผมเข้าใจว่าส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการพัฒนา (R&D) และห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ในช่วงภาวะโรคระบาด ที่ทำให้ทุกอย่างช้าลง

Strategy ของ Microsoft สำหรับ Laptop Go series ที่ผมมองเห็น คือ ใช้ chip ที่กำลังจะตกรุ่น เพื่อให้ราคาชิพค่อนข้างถูก นำมาใช้กับ Laptop Go ซึ่ง เป็น Surface ที่ราคาประหยัด ซึ่งเราจะเห็น compromises ต่างๆ ที่ทางทีม Surface เลือกตัดสินใจเพื่อสามารถทำราคาให้ถูกลงมาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง pen support, material, resolution

ซึ่ง Laptop Go 2 นี้ หน้าตามันเหมือน Laptop Go ที่ออกมาก่อนหน้านี้เป๊ะๆ เว้นแต่มีสีใหม่มาให้เราเลือกเล่นกัน... วันนี้ผมเลยจะขอใช้พื้นที่นี้ในการโชว์ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองรุ่นนี้ให้ดูกันชัดๆ นะครับ...



สรุป... นี่คือสิ่งใหม่ๆ ของ Surface Laptop Go 2 นะครับ

  • สีเขียว Sage ใหม่
  • รุ่นเริ่มต้นมาพร้อม SSD (ไม่มีรุ่นที่ใช้ eMMC แล้ว)
  • Intel 11th Gen chip ที่แรงกว่า และฉลาดกว่าด้านการประหยัดพลังงาน
  • Intel Iris Xe graphic ที่จะแรงกว่า UHD เดิมอย่างน้อย 2 เท่า
  • การออกแบบแบบ modular ที่ทำให้การซ่อมทำได้ง่ายขึ้น
  • ระยะเวลาการใช้งานที่นานขึ้น


สนใจสั่งซื้อ Surface Laptop Go 2 ได้ที่ Finn Store เลยครับ 😊

Sunday 6 June 2021

รู้ก่อนสั่งซื้อ Google Pixel Buds A VS Buds 2


ต้นเดือนมิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัวหูฟังไร้สายใหม่ ราคาประหยัด ที่เรียกว่า Pixel Buds A-series ภายใต้ catch phrase ที่ว่า

Rich sound,
for less

เป็นที่น่าสนใจมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ Google ออกมาเปิดตัว true wireless earbuds ในราคาต่ำกว่า $100 (ราคาเปิดตัว $99) เป็นครั้งแรก โดยผมเองวิเคราะห์ว่า ออกมาเพื่อตอบโจทย์แฟนๆ โทรศัพท์รุ่นคุ้มค่าของตน Google Pixel Phone A-series นั่นเอง โดยมีมาให้เลือกสองสีด้วยกัน นั่นก็คือ Clearly white และ Dark Olive




อย่างไรก็ตาม เจ้า Buds-A นี้ (ผมขอเรียกสั้นๆ แบบนี้นะครับ) หน้าตามันเหมือน Buds-2 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ในราคา $179 ยังกับแกะ... วันนี้ ผมเลยจะใช้พื้นที่นี้ในการโชว์ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองรุ่นนี้ให้ดูกันชัดๆ นะครับ...


สรุป... นี่คือ features หลักๆ ที่จะไม่มีใน A-series นะครับ... มีแค่นี้จริงๆ นะครับ...

- การลดเสียงรบกวนจากลม (Wind noise reduction)

- ชาร์จตัวเคสแบบไร้สาย (Wireless charging case)

- ปรับระดับเสียงด้วยการสัมผัส (Swipe for volume control)


เป็นยังไงกันบ้างครับ... ผมเองก็อึ้งไปไม่น้อย เพราะนอกจากจะหน้าตาเหมือนกันยังกับแกะแล้ว คุณสมบัติยังเหมือนกันเกือบหมดอีกต่างหาก... น่าจะถูกใจสายคุ้มค่ากันเลยทีเดียว...

สนใจสั่งซื้อ Pixel Buds ได้ที่ Finn Store เลยครับ 😊

Monday 25 January 2021

ทำความรู้จักกับ Surface Pro 7+ for business


Surface Pro 7+ for business นั้น เป็นสมาชิกใหม่ (ที่คุ้นเคย) ของ Microsoft Surface Line ที่เริ่มวางขายใน US ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม 2021 นี้ เฉพาะสำหรับลูกค้าธุรกิจและการศึกษา  วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ Surface Pro 7+ for business กันดีกว่าครับ (เหมือนเดิม คือ ผมขออนุญาตไม่ลงตาราง Product spec นะครับ หากันได้อยู๋แล้วแหละเนอะ จะเขียนถึงแหละครับ แต่ไม่ทำเป็นตารางให้ เพราะมีอยู่แล้วเต็ม internet ครับ)


Surface Pro 7+ ... What's different?


Surface Pro 7+ นั้น หน้าตาจะเหมือน Surface Pro 7 อย่างกับแกะ แต่มีการอัพเกรดสเปคภายในเครื่องให้เป็นปัจจุบัน หรือเป็นการ refresh นั่นเอง และยังเพิ่มโมเดลที่รองรับ LTE อีกด้วย วิธีการพูดถึง Surface Pro 7+ ที่ดีที่สุดก็คงจะเป็นการอธิบายถึงจุดที่ต่างไปจาก Surface Pro 7 นั่นเอง (สำหรับท่านใดที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับ Surface Pro 7 สามารถหาอ่านได้ที่นี่นะครับ...)


Removable SSD แม้จะเป็น tablet แต่ก็สามารถอัพเกรดได้


Surface Pro 7+ for business นั้นมาพร้อมกับ NVME SSD ที่สามารถถอดออกได้ และแม้ว่า Microsoft จะบอกว่า ไม่อนุญาตให้เราเพิ่มขนาด SSD ได้เอง แต่ออกแบบมาให้แกะ SSD ได้เพื่อให้ลูกค้าองค์กรสามารถแกะ SSD ซึ่งมีข้อมูลความลับของบริษัทฯ ออกก่อนขาย/ ซ่อมได้ แต่ก็มีคนลองแล้ว ว่ามันก็สามารถซื้อ SSD เพิ่มขนาดมาใส่เองได้ แค่แกะน็อตตัวเดียวเอง


ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ คาดว่า Microsoft ได้รับ Positive feedback มาจาก Surface Laptop 3 และ Surface Pro X นั่นเอง


Quad-core 11th gen Intel Processor 


สำหรับ Processor นั้น Surface Pro 7 จะมาพร้อมกับ 11th gen Core i3, i5 และ i7 จาก intel ซึ่งเคลมว่า CPU แรงขึ้นกว่าเดิม 30% และ GPU แรงขึ้นกว่าเดิมถึง 80% (จาก Xe graphic ตัวใหม่นั่นเอง) ซึ่งแน่นอนว่า ในรุ่น Core i3 และ i5 ก็จะไม่มีพัดลมเช่นเดิม


การไม่มีพัดลมนี้มันดียังไง? เพื่อนๆ ที่อ่านบทความที่ผมเขียนเรื่อง "ฝุ่น คือ ศัตรู" (ครั้งแรกในบทความ Surface Laptop 3 part 2) ซึ่งผมได้ copy มาแปะไว้ด้านล่างนี้อีกครั้งนะครับ... แล้วน่าจะถึงบางอ้อ ว่าผมคงแนะนำรุ่น Core i5 แน่ๆ... ก็ตามนั้นครับ ผมเกลียดฝุ่น... โดยเฉพาะฝุ่นในเครื่องที่ถอดทำความสะอาดไม่ได้


**ฝุ่น คือ ศัตรู**

นอกเรื่องนิดครับ... เนื่องจากว่า Laptop ทั้งหลายนั้นมีพัดลม ซึ่งจะนำพาฝุ่น (ที่มีอยู่มากมายในเมืองไทย) เข้าไปเกาะติดอยู่ภายในเครื่องของเรา แบบเดียวกับแอร์และพัดลมที่บ้านของเรานั่นแหละครับ แค่ปีเดียวแค่นั้น ฝุ่นที่เกาะอยู่จะทำให้พัดลมหมุนได้ช้าลง พอพัดลมทำงานได้แย่ลง Thermal solution ของเครื่องเราก็จะพังลง เกิดอาการ Thermal throttle ลดความเร็ว CPU ฮวบฮาบๆ (inner กำลังมาเต็มครับ 555)

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่เขียนเกี่ยวกับ Surface Laptop/ Surface Laptop 2 แต่เขียนถึง Surface Laptop 3 นั่นก็เพราะ รุ่น 1 และ 2 นั้นมันถอดมาทำความสะอาดไม่ได้นั่นเองครับ ไม่ว่าเราจะทำเอง หรือเอาไปให้ช่างที่ไหนทำก็ไม่ได้ แม้รูปลักษณ์จะสวยเพียงใด ผมก็ทำใจรักมันไม่ลง

ส่วนทำไมถึงไม่เขียนว่า "ไม่แนะนำ" นะหรือครับ? นั่นก็เพราะตัวผมเองปกติถ้าไม่สนใจแล้ว ก็จะไม่สนใจเลย ไม่อยากเขียนเกี่ยวกับมันนั่นล่ะครับ (เว็บนี้เป็นงานอดิเรก ผมเองจะมีแรงทำเฉพาะสิ่งที่ผมสนใจเท่านั้นแหละครับ)

ส่วน Tablet ผมจะมีความคาดหวังที่ต่างออกไป เพราะปกติ Tablet มันก็แกะไม่ได้อยู่แล้ว และ life expectancy ของ tablet ก็น้อยกว่า laptop อยู่พอสมควร ผมเลยเขียนเกี่ยวกับ Surface Pro อยู่บ้าง แต่ที่เขียนละเอียดๆ เลยคือ Surface Go ซึ่ง "ไม่มีพัดลม" ด้วยเหตุผลดังที่ว่าไปแล้ว


ใช้งานได้น๊านนน นานนนนนน จาก Battery ที่ใหญ่ขึ้น และ Processor ที่กินไฟลดลง


การที่ Surface Pro 7 นั้นใช้ 11th gen intel chip นั้น ก็จะทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ Surface Pro 7+ ได้นำ Panel หน้าจอแบบเดียวกับ Surface Pro X  ที่บางลงกว่าเดิมมาใช้ ทำให้ใส่ Battery ที่ใหญ่ได้มากกว่าเดิม จาก 46.5 Wh เป็น 50.4 Wh

นั่นทำให้ Surface Pro 7+ สามารถใช้งานได้นานถึง 15 hr (และ 13.5 hr ในรุ่น LTE) ซึ่งเพิ่มจาก 10.5 hr ในรุ่น Surface Pro 7 แบบเยอะมากๆ 😁😁


ไปให้สุดกับ RAM 32GB


ใครที่ต้องการ RAM เยอะๆ และคิดว่าตัวท็อปที่มี RAM 16GB นั้นน้อยเกินไป ตอนนี้ Surface Pro 7+ มีรุ่นท็อปที่มี RAM 32GB และ SSD 1TB ซึ่งแน่นอนว่าสเปคนี้นั้น "ไม่ถูก" แน่นอน... แต่ก็ทำให้ Business customers สามารถมีตัวเลือกที่มากขึ้นได้


Gigabit LTE advance


Surface Pro 7+ รุ่น Core i5 สามารถเลือกให้มี Snapdragon X20 LTE modem ทำให้ Surface Pro 7+ รองรับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 4G ที่ความเร็วสูงสุดถึง 1.2 Gigabit โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบ nanosim และ eSim

ซึ่งการที่ Surface Pro 7+ รองรับ Gigabit LTE นั้น จะช่วยให้การใช้งานนอกสถานที่นั้นเป็นไปด้วยความสะดวกสบาย ไม่ต้องหาร้านกาแฟที่มีไวไฟฟรี หรือเชื่อมต่อ hot spot กับมือถือของเราอีกต่อไป อยากใช้งานอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ แค่มีสัญญาณมือถือ ก็ใช้ได้ทันที ซึ่งนี่ ถือเป็นครั้งแรกที่ Microsoft Surface Pro มีรุ่นที่รองรับ LTE นับตั้งแต่ Surface Pro 5 (2017)


Killer convertible tablet ที่หาตัวเปรียบยาก


สำหรับผมแล้ว คอมโบของ Intel 11th Gen, Gigabit LTE, และ removable SSD นี้ทำให้ Surface Pro 7+ ที่ 2-in-1 Tablet ที่ทุกคนใฝ่ฝัน....

แต่... ขายเฉพาะ Business customers!!!!


Source: Microsoft, WindowsCentral