ก่อนอื่น ขอบอกก่อนนะครับว่าวิธีการทำให้ Battery ใช้ได้นานขึ้นใน Windows 10 นั้น ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างมาก ตั้งแต่ hardware ที่มี, Windows 10 version ต่างๆ กัน, Programme/ Game/ App ที่ลงไว้ในเครื่อง ซึ่งเอาจริงๆ คงจะไม่มีสูตรสำเร็จเพียงสูตรเดียวที่จะช่วยได้ ครั้งนี้ผมเลยจะขอเขียนถึงการปรับทำงานเบื้องหลัง ซึ่งหลายๆ คน อาจจะไม่ทราบว่ามันมีผลพอสมควรทีเดียว
การปรับการทำงานเบื้องหลังของ Windows 10 Anniversary Update (version 1607)
หลังจาก Windows 10 Anniversary Update นั้น การปรับการทำงานเบื้องหลังใน Settings มีอยู่ 2 ที่ครับ (เอาจริงๆ มันควรมีที่เดียวนะ รอดูกันต่อไปครับว่า Microsoft จะเปลี่ยนตรงนี้หรือไม่)
- ปรับใน Battery Settings
- ปรับใน Background apps Settings
การปรับการทำงานเบื้องหลังใน Battery Settings
- กด Settings
- เลือก System
- เลือก Battery
- เลือก Battery usage by app ซึ่ง Windows 10 จะคำนวณแอพที่ใช้ปริมาณแบตเตอรี่ของเรา
- เลือกว่าจะให้แสดง แอพที่มีการใช้, แอพที่มาจาก store ทั้งหมด, หรือแอพที่เราเคยเลือกให้ทำงานเบื้องหลังได้ตลอดเวลา
- จากนั้น เลือกแอพที่เราต้องการปรับตั้งค่า โดยควรเริ่มพิจารณาจากแอพที่มีการใช้งานสูงๆ ก่อน (ในที่นี้ผมเลือก Facebook เพราะทุกคนรู้จัก :D) Windows 10 จะคำนวณให้ว่าแอพดังกล่าวใช้แบตของเรากี่ % จากการใช้งานของเรา (in use) และกี่ % จากการทำงานเบื้องหลัง (background)
- เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะให้แอพนั้นๆ สามารถทำงานเบื้องหลังได้มากนั้นขนาดไหน
- Always allow - แอพจะทำงานเบื้องหลังได้ตลอดแม้ว่าจะเปิด "Battery saver mode"
- Managed by Windows - ให้วินโดวส์จัดการให้ อันนี้ไม่เคลียร์ แต่เท่าที่ดู เข้าใจว่า เวลาปกติ แอพจะทำงานเบื้องหลัง แต่ถ้าเปิด "Battery saver mode" แอพจะหยุดทำงานเบื้องหลัง
- Never allowed - แอพจะไม่สามารถทำงานเบื้องหลังได้ (ประหยัดพลังงานที่สุด)
การปรับการทำงานเบื้องหลังใน Background apps Settings
- กด Settings
- เลือก Privacy
- เลือก Background apps
- Windows จะมีรายการ App ทั้งหลาย พร้อมทั้งสถานะว่าแอพนั้นๆ ได้รับอนุญาตให้ทำงานเบื้องหลัง (รับส่งข้อมูล, แจ้งเตือน เป็นต้น) โดยหากเราไม่อยากให้แอพนั้นๆ ทำงานเบื้องหลัง (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย หรือเรื่องแบตเตอรี่) เราสามารถปิดมันได้ตรงนี้ด้วยครับ
เพียงเท่านี้ เราก็จะสามารถควบคุมการทำงานของแอพต่างๆ ในเบื้องหลังให้เป็นไปตามที่เราต้องการ และหวังว่าจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ออกไปอีก ไม่มากก็น้อยครับ
จะเห็นได้ว่า กระบวนการนี้ ใช้ได้กับ App/ Programme ที่เราโหลดจาก Windows Store เป็นหลักนะครับ นั่นหมายว่า ใน Windows 10 นี้ การใช้ Windows store app จะช่วยให้เราบริหารการใช้แบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเรานะครับ ใครที่อยากให้ battery ใช้ได้นานๆ ควรใช้ Windows store app แทนที่ App/ programme ปกตินะครับ