Search this site

Saturday, 12 August 2017

การใช้ Storage sense ใน Windows 10 เพื่อลดไฟล์ขยะแบบอัตโนมัติ

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ที่ใช้ Windows กันมานานนั้น น่าจะเคยผ่านประสบการณ์ว่าเครื่องที่ถูกใช้มาสักระยะนั้น จะต้องมีการลบไฟล์ขยะเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ Windows นั้นช้าลง หรือพื้นที่ hard disk เต็ม

เรื่อง Hard disk เต็มนั้น ปัจจุบันเริ่มกลับมามีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากเทรนด์ของ 2-in-1 tablets/ laptops ที่กำลังมาแรง ซึ่งพวก 2-in-1 tablets/ laptops เหล่านี้ มักจะมาพร้อมกับ Solid State Drive (SSD) ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า Hard Disk จานหมุนแบบเดิมๆ หลายเท่า แต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่า Hard Disk มากในขนาดความจุเดียวกัน ทำให้เวลาเราซื้อ 2-in-1 tablets/ laptops รุ่นใหม่ๆ นี้ กลับกลายเป็นว่ามักจะได้ขนาดพื้นที่ของ internal storage ที่น้อยลงกว่าสมัยก่อนหลายเท่าอยู่

ใน Windows 10 เอง มีวิธีการจัดการกับไฟล์ขยะอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเดิมๆ ที่ใช้เวลารอนานเหมือนกัน โดยใช้ Disk cleanup หรืออาจะทำได้โดยการ Refresh / Reset การใช้งานของ Windows 10 Apps ซึ่งเราต้องเข้าไปกดเองเป็นระยะๆ แต่วันนี้ผมมีวิธีที่กำหนดให้ Windows 10 ทำการจัดการไฟล์ขยะบางประเภทให้เราโดยอัตโนมัติ ดังนี้ครับ วิธีการนี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีสกิลการใช้คอมมากมาย

การใช้ Storage sense ใน Windows 10 

  1. ใน Settings เลือก Systems
  2. เลือก Storage
  3. ดูว่า Storage ได้เปิดใช้งานอยู่แล้วหรือไม่ (ตามรูป คือ เปิดใช้งานแล้ว) ถ้ายัง ให้เปิดใช้งาน
  4. เข้าไปปรับแต่งเพิ่มเติม (customise) ได้อีกเล็กน้อยโดยคลิกที่ "Change how we free up space" จากนั้นก็เลือก options ต่างๆ ที่เราต้องการดังนี้ครับ
    • ให้ Windows 10 ลบ Temporary files ที่ Apps ไม่ได้ใช้งานแล้วหรือไม่
    • ให้ลบไฟล์ใน Recycle Bin ที่อยู่มานานกว่า 30 วันหรือไม่
  5. เราสามารถตรวจสอบได้ ว่า Storage sense ได้ช่วยลบไฟล์ให้เราไปมากนั้นแค่ไหน รวมถึงเลือก "Clean now" เพื่อให้ Windows 10 จัดการไฟล์ขยะได้ทันที

เพียงเท่านี้ เราก็จะไม่ต้องกังวลกับไฟล์ขยะทั้งสองประเภทนี้ไปอีกเลยครับ


Note ผมเขียนบทความนี้จาก Windows 10 Creators update (v1703) ซึ่งเป็น latest production version ณ วันที่เขียนบทความนะครับ หาก Windows 10 version ใหม่ๆ มีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม options ต่างๆ ผมจะมา update บทความให้เป็นระยะๆ ครับ

Note2 บทความและรูปภาพต่างๆ ผมได้จัดทำขึ้นเอง โดยใช้ Microsoft Surface 3 และ Surface Pro pen

No comments:

Post a Comment