Search this site

Sunday, 2 September 2018

Intel Core gen 8 สำหรับ ultrabook และ 2-in-1 ที่มาพร้อม Gigabit WIFI



สวัสดีครับ ผมได้เคยเขียนบทความเพื่ออธิบายความสับสนงุนงงของการเรียกชื่อ Core i3, i5, i7 อะไรพวกนี้ของ Intel ไปเมื่อปีที่แล้ว หากยังไม่ได้อ่าน สามารถไปอ่านกันได้นะครับ มันเกี่ยวข้องกับที่ผมจะเขียนวันนี้พอสมควร เพราะตอนที่ผมเขียนบทความนั้น Intel เพิ่งเปิดตัว Core series gen 7 ได้ไม่นาน ครั้นจะเขียนเพิ่มตอน gen 8 เปิดตัว ก็ดันค่อยๆ เปิดตัวแบบลักปิดลักเปิด ค่อยๆ มาทีละตัวสองตัว แถมมี gen 8 พวก Kaby lake refresh อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ branding ของ Intel ยิ่งสับสนเข้าไปทุกที เลยตัดสินใจว่า "นิ่งเสียตำลึงทอง" จะดีกว่า แม้ว่า Coding จะยังใช้หลักการเดิม แต่ความหมายของมันไม่ได้เป็นแบบเดิมไปเสียทั้งหมด ดังนั้น บทความเดิมที่ผมเขียนเรื่อง Coding จึงยังสามารถช่วยเราได้พอสมควรในการ "มองเผินๆ" เท่านั้น



อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 August 2018 นี้ Intel ได้เปิดตัว Intel Core gen 8 ที่น่าสนใจมาก เนื่องจากมีการฝัง integrated gigabit WIFI มาด้วยเลย โดยแบ่งเป็น U series และ Y series



เรามาดูกันครับว่ามีอะไรดีๆ บ้าง




U series - i3, i5, i7 (i3-8145U, i5-8265U, i7-8565U) - Codename: Whiskey Lake



Intel ระบุว่า U series ทั้งสามรุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับ Laptop และ 2-in-1 โดยเฉพาะ เพราะมันมีความพิเศษ คือ Intel ใส่ Integrated Gigabit WIFI มาด้วยเลย (ทำตัวคล้ายๆ ARM เข้าไปทุกวัน) ซึ่ง Gigabit WIFI นี่ก็หมายความว่า PC ที่ใช้ชิพเซ็ทนี้ จะสามารถรองรับ WIFI ที่เร็วได้สูงสุดถึง 1 Gbps หรือ 1000 Mbps เลยทีเดียว ซึ่งใครที่มีเน็ทบ้านแรงๆ มี WIFI router แรงๆ จะถูกใจมากทีเดียว



นอกจากนี้ชิพเซ็ทนี้ยังเป็นชิพเซ็ทที่ประหยัดพลังงานกว่าเดิม ซึ่ง PC ที่ใช้ชิพเซ็ทนี้ อาจจะสามารถออกแบบให้ใช้งานบนแบตเตอรี่ได้นานถึง 16 - 19 hr



สำหรับเทคโนโลยีการแสดงผล ชิพเซ็ทนี้ได้เพิ่มการรองรับมาตรฐาน Dolby Vision HDR ซึ่งเมื่อรวมกับ Dolby Atmos Immersive audio ด้วยแล้ว ก็น่าจะทำให้ PC ของเรากลายเป็นฐานทัพความบันเทิงของครอบครัวได้เลย



Y series - m3-8100Y, i5-8200Y, i7-8500Y - Codename: Amber Lake



สามารถรองรับ Gigabit WIFI เช่นเดียวกับ U series (แต่เข้าใจว่าไม่ได้ใส่มาให้ด้วยนะครับ) และรองรับ eSIM รวมถึงจะทำให้ PC มีความแม่นยำของระบบสัมผัสและปากกา สำหรับอุปกรณ์ที่มีระบบ touch and pen ที่ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ชิพเซ็ทรุ่นนี้ยังทำให้สามารถออกแบบ PC ที่มีความบางกว่า 7 mm และเบากว่า 0.45 kg (1 pound) ได้เลยทีเดียว



โดยเราน่าจะเริ่มเห็น laptop และ 2-in-1 ทยอยเปิดตัวด้วยชิพเซ็ทนี้กันเป็นทิวแถวแน่นอนครับ เพราะหลายๆ เจ้าก็อั้นมานานแล้ว วันนี้ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้แล้วกันครับ





Source: Intel

No comments:

Post a Comment