สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเขียนเล่าเรื่องการ์ดจอจากค่ายสีเขียว NVIDIA กันสักหน่อย เพราะช่วงนี้ออกมาหลายรุ่นหลายซีรี่ย์จนหลายคนอาจจะงงกันไปหมดแล้วว่าควรจะเลือกอะไรแบบไหนดีนะครับ โดยจะเน้นไปที่การ์ดจอรุ่นใหม่ๆ ใน series 20xx และ 16xx นะครับ เอ้า... ไปเริ่มกันเลยครับ...
GeForce RTX 20xx series
Series นี้ ทาง NVIDIA เปิดตัวไปในปี 2018 โดยระบุว่า GeForce RTX เนี่ย สามารถทำให้เรามีประสบการณ์ในการเล่นเกมที่สุดยอด ไม่ว่าจะมาจากสถาปัตยกรรม Turing GPU, AI cores, และ Real Time Ray Tracing (RTX) cores ซึ่งถ้าใครไม่เข้าใจว่าคืออะไร ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
สำหรับ Series นี้ ปัจจุบันเปิดตัวออกมาทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน คือ
- รุ่น ท็อปสุด RTX 2080 Ti ราคาโคตรแพง $1200
- RTX 2080 ราคา $800
- RTX 2070 ราคา $600
- และ RTX 2060 มีราคาอยู่ที่ประมาณ $350
GeForce GTX 16xx series
Series นี้ ทาง NVIDIA มาเปิดตัวในช่วงต้นปี 2019 โดยใช้สถาปัตยกรรม Turing GPU เช่นเดียวกับ series 20xx แต่ไม่มี AI และ Ray Tracing cores และนั่นเป็นสาเหตุให้ NVIDIA ยังเรียก series นี้ว่า GTX นั่นเอง โดยปัจจุบันมีเปิดตัวออกมาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน คือ
- GTX 1660 Ti ราคา $280
- GTX 1660 ราคา $220
- และ GTX 1650 ราคา $150
ซึ่งราคาที่ใส่ไว้ให้ เป็นราคากลางที่ทาง NVIDIA เปิดตัวที่อเมริกานะครับ ราคาที่บ้านเราอาจต่างกันไปตามรุ่น ตามยี่ห้อของการ์ดจอ ซึ่งคนที่ต้องซื้อการ์ดจอมาเล่นเกมคงทราบกันอยู่แล้วนะครับ ที่ใส่ราคาเปิดตัวไว้ เพื่อเอาไว้เป็น reference นะครับ ซึ่งทั้งสอง series นี้ราคาต่างกันมากทีเดียว
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบราคาของการ์ดจอใน Series RTX 20xx กับการ์ดจอรุ่นก่อนใน series GTX 10xx ก็นับว่าแพงกว่ามากๆ เลยล่ะครับ แล้วเอาจริงๆ มันคุ้มกันมั้ย ที่จะต้องจ่ายแพงขึ้น แลกมากับ Ray Tracing ซึ่งถือว่าเป็นตัวชูโรงใหม่ก็ว่าได้ ซึ่งก็เอาจริงๆ จนถึงวันนี้ การ์ด RTX เปิดตัวมาได้เกือบปีแล้ว ปรากฎว่ามีเกมที่รองรับ Ray Tracing อยู่เพียงไม่กี่เกมแค่นั้น เช่น Shadow of the Tomb Raider, Metro Exodus, และ Batterfield V แล้วก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะมีเกมที่คู่ควรมาให้เล่นกันเยอะๆ
Performance
สำหรับ performance นั้น จัดได้ว่า สถาปัตยกรรม Turing GPU ทั้งสอง series นี้ มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า series 10xx ในรุ่นที่เลขลงท้ายเท่าๆ กัน เช่น
- GTX 1650 ก็จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า GTX 1050 Ti
- GTX 1660 จะมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GTX 1070 แต่ราคาถูกกว่า และเค้าว่ากันว่า NVIDIA ทำ GTX 1660 นี้ออกมาเพื่อตัดราคา AMD RX290/ 580 โดยเฉพาะ
- GTX 1660 Ti นั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่า GTX 1660 อีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เราได้ประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอขึ้นมากกว่าเดิมอีกครับ
- ส่วน RTX 2060 นั้น จะวัดระดับประสิทธิภาพขึ้นไปที่ GTX 1070 Ti ในราคาที่ถูกกว่า และแน่นอน มาพร้อมกับ Ray Tracing Core แล้วนะครับรุ่นนี้
- มาถึง RTX 2070 กันบ้าง รุ่นนี้แม้ราคาจะสูง แต่เราก็ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า GTX 1080 กันเลยทีเดียวครับ ถ้าใครที่ต้องการซื้อการ์ดจอที่น่าจะใช้ไปได้ยาวๆ ผมแนะนำเลยว่า RTX 2070 นี่คุ้มที่สุดในตระกูล RTX แล้วครับ
- ต่อมาคือตัวรองท็อป RTX 2080 นั้น แรงถึงขนาดเก็บกินเรียบ แรงกว่า GTX 1080 Ti, AMD Vega 64, Radeon VII โดยเฉพาะเมื่อเล่นเกมในแบบ 4K นั้น RTX 2080 แรงกว่า GTX 1080 Ti ถึง 20%
- สุดท้าย ก็คือ RTX 2080 Ti การ์ดจอสำหรับแฟนๆ กระเป๋าหนัก ที่แรง และแพงจริงๆ ไม่ต้องไปเทียบกับใครเลย เพราะ 1080 Ti ก็โดน RTX 2080 สอยไปแล้ว เรียกได้ว่า นี่คือการเซ็ตขอบฟ้าใหม่ของ Gaming Graphic performance อย่างแท้จริง
ตัวอย่างภาพในเกมจาก Metro Exodus - RTX ON
ลองดู NVIDIA graphic cards บน Lazada
Update: ถ้าเป็นของ notebook/ laptop ควรหาดู review แต่ละรุ่นเพิ่มเติมด้วยนะครับ เพราะมันมีปัจจัยอื่นๆ เสริมเยอะมาก เช่น under-voltage, thermal design, fan speed, etc. ของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนั้นต่างกันมาก ดูแค่สเปคไม่ได้นะครับ
ก็หวังว่าข้อมูลวันนี้จะถูกใจคอเกมกันไม่มากก็น้อย แล้วเจอกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ
Update: ถ้าเป็นของ notebook/ laptop ควรหาดู review แต่ละรุ่นเพิ่มเติมด้วยนะครับ เพราะมันมีปัจจัยอื่นๆ เสริมเยอะมาก เช่น under-voltage, thermal design, fan speed, etc. ของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนั้นต่างกันมาก ดูแค่สเปคไม่ได้นะครับ
ก็หวังว่าข้อมูลวันนี้จะถูกใจคอเกมกันไม่มากก็น้อย แล้วเจอกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ
No comments:
Post a Comment