Search this site

Saturday, 17 August 2019

นันยางประกาศสินค้ารองเท้าแตะรุ่น "ขยะ" ทำจากขยะทะเล - โพส CSR

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีๆ อีกหนึ่งทางนะครับ เพราะขยะที่ทิ้งลงสู่ทะเลจัดเป็นเรื่องใหญ่ที่ยืดเยื้อของประเทศมานาน การมีคนลุกขึ้นมาทำสิ่งดีๆ ผมขอปรบมือ ถือเป็นโพส CSR ของเราแล้วกันนะครับ ข้อความเกือบทั้งหมดด้านล่างนี้เป็นข้อความที่ quote มาเกือบทั้งสิ้นนะครับ ตรงไหนที่เป็นของผม ผมจะระบุเอาไว้ให้ครับ

นันยางประกาศผลิตรองเท้าแตะช้างดาวรุ่นกู้โลก ทำจากขยะทะเล 5 KG ต่อหนึ่งคู่
ขยะจะไม่เป็นขยะอีกต่อไป เพียงใจเราปรับมุมมอง! สั่นสะเทือนทั้งวงการเพราะนันยาง |  คิด-ผลิตรองเท้าแตะช้างดาวรุ่นกู้โลก limited edition ทำจากขยะทะเล ร่วมกับ Tlejourn : ทะเลจร  |  1 คู่ = ขยะรองเท้าในทะเล 5 กิโลกรัม | แต่ละคู่ดูไม่ซ้ำใคร!
รองเท้าเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิต แต่เมื่อหมดสภาพแล้ว ก็ถูกทิ้งอย่ามหาศาล ในขณะเดียวกัน ขยะและมลพิษในทะเลก็เป็นเรื่องสำคัญของโลก 
นันยางจึงออกรองเท้าช้างดาวรุ่นใหม่ทำจากขยะทะเล ชื่อรุ่นว่า "ขยะ" โดยเปลี่ยนขยะรองเท้าทะเล นำเข้ากระบวนการแปรรูปเป็นรองเท้าคู่ใหม่ แต่ละคู่รองเท้า เกิดจากการเก็บขยะทะเล 5 กิโลกรัม (1 คู่ลดขยะทะเล 5 กิโลกรัม) 
ที่ส่วนพื้นทำมาจากยางพาราวัสดุเดียวกับช้างดาว ที่มีชื่อเสียงเรื่องความทนทานใช้ได้นาน
โดยรองเท้าดังกล่าวร่วมมือกับทะเลจร และกลุ่มที่นำขยะทะเลมาอัพไซเคิลเป็นรองเท้าคู่ใหม่ และมีสินค้ารองเท้าจากขยะทะเลมากมาย ติดตามได้ทางเพจด้านบน 
ถือเป็น product ดีดีจากคนไทย ที่ตั้งใจทำการรีไซเคิล และอัพไซเคิล วัสดุชิ้นเก่ามาเป็นวัสดุชิ้นใหม่ ใส่ใจถึงปัญหาขยะ จัดการขยะปลายทาง และเป็นการสะท้อนปัญหาขยะในทะเลที่มีมหาศาลโดยเฉพาะประเทศไทย (อันดับ 6 สร้างขยะพลาสติกลงทะเล)
และได้เขย่าวงการอุตสาหกรรม การผลิต ผลิตภัณฑ์ให้หันมาใส่ใจการแก้ไข "รับผิดชอบ" ต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 
ขยะจะไม่เป็นขยะอีกต่อไป เพียงแค่เปิดใจเราปรับมุมมอง! 
และอย่าลืมว่าเราทุกคนก็ต้องพยายาม ลด ละ เลิกสร้างขยะเพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง เก็บขยะ แยกขยะนำขยะไปทิ้งให้ถูกที่ถูกทางเพื่อการจัดการที่ถูกต้องด้วยนะ 
สิ่งของไม่ใช้ในบ้านนำไปบริจาค (หรือขาย) ให้กับคนที่ต้องการ เป็นการลดขยะได้ด้วย!
ที่มา: Facebook Page Environman


สถานะปัจจุบัน: เปิดพรีออเดอร์แล้วที่ Lazada


สามารถเข้าไป Pre-order กันได้ที่นี่นะครับ

ที่มา: Facebook FinnStore Thailand













No comments:

Post a Comment