Search this site

Friday 8 November 2019

ทำความรู้จักกับ Surface Laptop 3 - 13.5" & 15" part 2

สวัสดีครับ วันนี้มาต่อกันกับการทำความรู้จัก Surface Laptop 3 กันนะครับ ต้องแบ่งเป็นสองตอนอีกแล้ว เพราะมันก็มี features ที่น่าสนใจไม่น้อย ทำให้จะรวมไว้เป็นหน้าเพจเดียวก็จะดูยาวเกินไป เอาเป็นว่า สามารถหาอ่าน part 1 ได้ที่นี่นะครับ

>>ทำความรู้จักกับ Surface Laptop 3 Part 1<<

ว่าแล้วก็เริ่มกันต่อดีกว่าครับ ว่ายังมีอะไรเด็ดๆ อีกบ้าง

เลือกขนาดหน้าจอ 13.5" และ 15"



Surface Laptop และ Surface Laptop 2 นั้น จะมีแต่รุ่น 13.5" เท่านั้น แต่ใน Surface Laptop 3 นั้น จะมีรุ่น 15" เข้ามาเป็นตัวเลือกด้วย โดยยังคงคอนเซ็ปท์เหมือนเดิมนะครับ คือ เป็น Vanilla ultrabook experience โดยไม่ได้มี dedicated GPU เข้ามาเกี่ยวข้อง


ส่วนตัวผมแล้ว คิดว่า 15" นั้นใหญ่เกินไป แต่มันก็จะเหมาะอย่างยิ่งกับงานหลายๆ อย่างที่ต้องเปิดมากกว่า 1 หน้าต่าง พร้อมๆ กันนะครับ เพราะมีพื้นที่ทำงานเพิ่มขึ้นเยอะเลย สำหรับความแตกต่างของรุ่น 15" นั้น ผมได้สอดแทรกเอาไว้เป็นหมายเหตุตลอดบทความอยู่แล้วนะครับ
ลองดู Surface ใน Lazada

ซ่อมได้แล้วจ้า กับ Modular design

ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญไม่น้อยสำหรับคนที่คิดจะซื้อ Laptop มาใช้ เพราะผมเอง เวลาจะเลือก laptop ก็มักจะพิจารณาว่าเราจะ maintenance มันได้ยังไง

**ฝุ่น คือ ศัตรู**

นอกเรื่องนิดครับ... เนื่องจากว่า Laptop ทั้งหลายนั้นมีพัดลม ซึ่งจะนำพาฝุ่น (ที่มีอยู่มากมายในเมืองไทย) เข้าไปเกาะติดอยู่ภายในเครื่องของเรา แบบเดียวกับแอร์และพัดลมที่บ้านของเรานั่นแหละครับ แค่ปีเดียวแค่นั้น ฝุ่นที่เกาะอยู่จะทำให้พัดลมหมุนได้ช้าลง พอพัดลมทำงานได้แย่ลง Thermal solution ของเครื่องเราก็จะพังลง เกิดอาการ Thermal throttle ลดความเร็ว CPU ฮวบฮาบๆ (inner กำลังมาเต็มครับ 555)

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่เขียนเกี่ยวกับ Surface Laptop/ Surface Laptop 2 แต่เขียนถึง Surface Laptop 3 นั่นก็เพราะ รุ่น 1 และ 2 นั้นมันถอดมาทำความสะอาดไม่ได้นั่นเองครับ ไม่ว่าเราจะทำเอง หรือเอาไปให้ช่างที่ไหนทำก็ไม่ได้ แม้รูปลักษณ์จะสวยเพียงใด ผมก็ทำใจรักมันไม่ลง

ส่วนทำไมถึงไม่เขียนว่า "ไม่แนะนำ" นะหรือครับ? นั่นก็เพราะตัวผมเองปกติถ้าไม่สนใจแล้ว ก็จะไม่สนใจเลย ไม่อยากเขียนเกี่ยวกับมันนั่นล่ะครับ (เว็บนี้เป็นงานอดิเรก ผมเองจะมีแรงทำเฉพาะสิ่งที่ผมสนใจเท่านั้นแหละครับ)

ส่วน Tablet ผมจะมีความคาดหวังที่ต่างออกไป เพราะปกติ Tablet มันก็แกะไม่ได้อยู่แล้ว และ life expectancy ของ tablet ก็น้อยกว่า laptop อยู่พอสมควร ผมเลยเขียนเกี่ยวกับ Surface Pro อยู่บ้าง แต่ที่เขียนละเอียดๆ เลยคือ Surface Go ซึ่ง "ไม่มีพัดลม" ด้วยเหตุผลดังที่ว่าไปแล้ว



แต่เมื่อวันนี้ Surface team สามารถออกแบบ Surface laptop 3 ให้สามารถ "maintenance ได้" โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์และความสวยงามอีกต่างหาก... ผมจึงขอ "ซูฮก" และ "Respect!" มา ณ ที่นี้

เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องสำคัญเมื่อ Panos Panay แกะเครื่องโชว์กลางเวทีเลยว่า Keyboard deck นั้นสามารถแกะออกได้ เพียงแค่เราไขน็อต 4 ตัวที่แอบอยู่ใต้ยางกันลื่นเท่านั้นเอง ซึ่งเรื่องนี้ทาง iFixit.com ก็ได้คอนเฟิร์มแล้วว่า หลังจากเอาน็อตออกแล้ว keyboard deck นั้นยึดติดอยู่กับตัวเครื่องด้วยแม่เหล็กเท่านั้น ไม่มีกาวใดๆ



ไฮไลท์ที่ตามมาก็คือ NVME SSD นั้น สามารถถอดออกได้แล้วครับ และแม้ว่า Microsoft จะบอกว่า ไม่อนุญาตให้เราเพิ่มขนาด SSD ได้เอง แต่ออกแบบมาให้แกะ SSD ได้เพื่อให้ลูกค้าองค์กรสามารถแกะ SSD ซึ่งมีข้อมูลความลับของบริษัทฯ ออกก่อนขาย/ ซ่อมได้ แต่ก็มีคนลองแล้ว ว่ามันก็สามารถซื้อ SSD เพิ่มขนาดมาใส่เองได้

สำหรับการซ่อมแซมส่วนอื่นๆ นั้น ได้รับการยืนยันจากเจ้าพ่องัดแงะอย่าง ifixit.com ว่ามีส่วนประกอบเป็น modular ในหลายๆ ส่วน ไม่ได้เชื่อมทุกอย่างเอาไว้บน mainboard เหมือนแต่ก่อน เว้นแต่ RAM ที่ยังเชื่อมอยู่

Studio microphones และ Omnisonic speakers



สำหรับแฟนๆ Surface laptop นั้น น่าจะคุ้นเคยกันดีกับ web cam ที่แม้จะถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด HD (720p) เหมือนกับ laptop ด้วยกันแล้ว แต่มีคุณภาพของวีดีโอที่ดีกว่า 720p ใน laptop ต่างๆ มาก (Macbook ก็ให้มาแค่ 720p นะครับ) ใครที่เคย video call (เช่น skype หรืออื่นๆ) ผ่าน Surface Laptop น่าจะทราบกันดีนะครับ

Surface Laptop 3 นั้น มาพร้อมกับ Far field studio microphones 2 ตัวที่จูนมาสำหรับ video call โดยเฉพาะ ทำให้เสียงชัด แม้จะยืนพูดห่างๆ จากตัวเครื่องก็ตาม ซึ่งนี่จะทำให้ Surface Laptop จะแพ้ในเรื่อง Video call ก็แค่กับ Surface Pro เท่านั้น



แต่สิ่งที่ Surface Laptop ทำได้ดีที่สุดในตระกูล Surface ด้วยกันก็คือการใส่ Omnisonic speakers เอาไว้ใต้ keyboard ซึ่งนอกจากจะทำให้ไม่ต้องเจาะรูตัวเครื่องแล้ว ยังสามารถใส่ driver ตัวใหญ่กว่าปกติเอาไว้ได้อีกด้วย ซึ่ง Surface laptop 3 นั้น ก็ยังนำเอาจุดเด่นนี้มาใส่ไว้เช่นกัน

หมายเหตุ มีบางคนพบว่า คุณภาพเสียงใน Surface Laptop 3 รุ่นที่มี Alcantara จะมีคุณภาพที่ดีกว่ารุ่นที่ไม่มี Alcantara ซึ่งส่วนตัวผมเข้าใจว่า นั่นคือคุณสมบัติในการดูดซับเสียงของวัสดุที่มีพื้นที่ผิวมากกว่าอย่าง Alcantara นั่นเอง
ลองดู Surface ใน Lazada

การมาของ AMD Ryzen, Microsoft Surface Edition



สำหรับ Surface Laptop 3 รุ่น 15" ปกตินั้น ทาง Microsoft ได้เลือกใช้ชิพจากฝั่ง AMD โดยจะเป็น custom chips ที่เรียกว่า AMD Ryzen 5/7 Microsoft Surface Edition ซึ่งมีส่วนที่ต่างไปจากปกติ คือ การมีชิพกราฟฟิค Vega ที่แรงขึ้นกว่า Ryzen5/7 ปกติ



โดยสำหรับรุ่น Ryzen 7 นั้น จะมาพร้อมกับ AMD Radeon RX Vega 11 ซึ่งจัดเป็น best-in-class on board graphic ส่วนรุ่น Ryzen 5 นั้นจะมาพร้อมกับ AMD Radeon RX Vega 9

หากเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ CPU แล้วจะพบว่า Surface Laptop 3 รุ่น Ryzen 5, 7 นั้น จะมีประสิทธิภาพเท่าๆ กับ Intel Core i5, i7 ใน Surface Laptop 2 แต่สำหรับ GPU แล้ว Surface Laptop 3 รุ่น Ryzen 5, 7 นั้นจะมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Iris plus ใน 10th gen intel chip นะครับ

ก็นับว่ามีข้อดีข้อด้อยที่ต่างกันไปนะครับ

แต่สำหรับใครที่อยากได้ Surface Laptop 3 รุ่น 15" ที่เป็น intel chip นั้น ในต่างประเทศ สามารถหาซื้อได้ในตามช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อลูกค้าธุรกิจนะครับ โดยราคาจะแพงกว่ารุ่นที่ใช้ชิพ AMD อยู่ประมาณ $100 ส่วนในประเทศไทยถ้านำเข้ามาขาย ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นรูปแบบคล้ายๆ กันนะครับ
ลองดู Surface ใน Lazada

เอาล่ะครับ วันนี้คงพอแต่เพียงเท่านี้ ไว้ผมจะหาเวลาเขียนสรุป performance ของ Surface Laptop 3 ไว้ให้อ่านกันนะครับ

No comments:

Post a Comment